เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร สวพ. 4 ร่วมตรวจสอบวัตถุอันตรายทางการเกษตรจังหวัดนครราชสีมา

Details
Category: ข่าวหน้าเว็บไซต์
Published on Wednesday, 01 June 2022 15:03
Written by กิตติภัทร บุคจำปา
Hits: 715

FontNews

     วันที่​ 31​ พ.ค.​ 2565​ ดร.ประพิศ​ วองเทียม​ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่​ 4​ มอบหมาย​ให้​ นายกิติพร เจริญสุข ผอ.กลุ่มควบคุมตามพระราชบัญญัติ นางพรศุลี อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโนนสูง นางสาวรัชดา ปรัชเจริญวนิชย์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา และคณะ​ ร่วมสนธิกำลังกับ​ กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการควบคุมผู้บริโภค เข้าตรวจสอบโกดัง​ เลขที่ 79 หมู่ 10 ตำบลกระซอน อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา​ พบว่าได้มีการลักลอบผลิตวัตถุต้องสงสัยเป็นวัตถุอันตรายทางการเกษตร ที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และพบการผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน​ การกระทำผิดดังกล่าวมีบทกำหนดโทษ​ ที่เกี่ยวข้องดังนี้ 

พ.ร.บ.วัตถุอันตราย​ พ.ศ.2535

1.ผู้ใดผลิต หรือมีไว้ในความครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 43,74
2.ผู้ใดผลิตวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ปลอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีหรือปรับไม่เกิน 700,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 45(1),75
3.ผู้ใดผลิตหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 23,73
4.ผู้ใดผลิตวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่มีใบสำคัญการขึ้นทะเบียนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกิน 300,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 45(4),78 

 และ​ พ.ร.บ. ปุ๋ย พ.ศ.2518 และฉบับแก้ไข ฉบับที่ 2 พ.ศ.2550

1.ผลิตปุ๋ยเคมีเพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม มาตรา 12 วรรคหนึ่ง,57 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ผลิตเพื่อการค้า ปุ๋ยที่ต้องขึ้นทะเบียน แต่มิได้ขึ้นทะเบียนไว้ ตาม มาตรา 30 (5),71 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. มาตรา 63

      ผู้ผลิตปุ๋ยเคมีปลอมอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา30(1)ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปีและปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับในการนี้พนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร​ จึงได้ร่วมกันตรวจสอบ​ เก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพที่กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อพิสูจน์ทราบ​ เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี​ และอายัดของกลางในการกระทำผิด คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย​ 10​ ล้านบาท​

4297 1510690
1511271 1511273
1511277 1511317
1511319 1511328
1511339 1511359